
Welcome to
TRI LAXIA
Format Project
เลื่อนลงเลยสิ

ตั้งแต่รายการนั้นจบไป ก็ไม่มีความคืบหน้าอะไรเลย หลังจากได้รางวัล วี่แววอื่นๆ ก็ไม่มี
แต่เรา ยังเป็น Content Creator กลุ่มพอดแคสต์ (น่าจะ)กลุ่มสุดท้ายของประเทศ ที่ยังพูดถึง
และทำคอนเทนต์เกี่ยวกับรายการดังกล่าวออกมาอย่างต่อเนื่อง แม้รายการจะจบไปเป็นปีๆ แล้ว
แต่เมื่อตอนครบ 1 ปี การบันทึกเทปรอบแรก(17 กันยายน) ผมกลับคิดอะไรได้ออกมา จึงได้ร่าง และสร้าง "ฟอร์แมต" รายการประกวด รายการใหม่
ที่ตั้งใจจะเป็นการ "สานต่อความยิ่งใหญ่" และ "ปรับปรุง" รายการประกวดวงไอดอล รายการแรกของประเทศไทย
ให้มีการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง มีคุณภาพการตัดสินที่ดีขึ้น รวมถึงเพื่อพัฒนาศิลปิน ให้มีผลงานคุณภาพ และ
"มีคุณธรรม พร้อมเป็นแบบอย่างที่ดี
ให้กับคนทุกวัย ตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้ใหญ่"
และนี่ คือที่มาของสิ่งที่ผมสร้างขึ้นมา เรียกว่า

แล้ว...
มันคืออะไรอ่ะ?
TRI LAXIA (TRI-LAXIA แบบมีขีดก็ได้ ไม่ว่ากัน แต่อ่านว่า ไทรแล็กเซียเหมือนกัน)
คือฟอร์แมตรายการประกวดศิลปินไอดอล และเกิร์ลกรุ๊ป ที่ผม MynameisPongsatorn ได้คิดขึ้นมา
โดยเป็นการพัฒนาต่อยอด และปรับปรุงมาจาก LODI X NEXT IDOL (Wokrpoint Entertainment พ.ศ. 2563-2564) รายการประกวดศิลปินไอดอล และเกิร์ลกรุ๊ป "รายการแรกของประเทศไทย"
ชื่อของฟอร์แมต มาจากการรวมกัน 2 คำ คือ
คำว่า Tri ที่แปลว่า สาม
และคำว่า Galaxia ซึ่งเป็นคำในภาษาสเปน และโปรตุเกส แปลว่า กาแล็กซี่
ซึ่งเป็นการแสดงถึง "ระบบการแข่งขัน"
ที่มีการแบ่งกลุ่มของศิลปินที่จะเข้าร่วมแข่งขัน ออกเป็น 3 กลุ่ม (3 รูปแบบวง) คือ
J-POP Idol
T-POP Idol
Girl Group
จุดหมายสำคัญของการแบ่งรูปแบบวง
ก็เพื่อแยกแยะให้ชัดเจน ในเรื่องของหลักเกณฑ์การตัดสิน
ที่การตัดสินของวงในแต่ละรูปแบบ จะไม่เหมือนกัน
ไอดอล จะเน้นการตัดสินที่ "การมอบความสนุก และความสุขให้ผู้ชม"
เกิร์ลกรุ๊ป จะเน้นการตัดสินที่ "ความสมบูรณ์แบบของการแสดง"
ซึ่งถือเป็นการ "แก้ไขปัญหาการใช้เกณฑ์การตัดสินเดียวกัน"
เพราะวงทั้ง 2 รูปแบบ ก็มีความแตกต่างในตัวของรูปแบบเอง
การตัดสินด้วยเกณฑ์เดียวกัน ย่อมไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่นอน
วัตถุประสงค์
1.เพื่อให้ศิลปินวงไอดอลหญิง และเกิร์ลกรุ๊ปในประเทศไทย ได้มีเวทีการแข่งขันแสดงความสามารถด้านดนตรี นอกเหนือจากเวทีกิจกรรมที่มีอยู่แล้ว
2.เป็นเวที ในการพัฒนาศักยภาพ พัฒนาประสิทธิภาพทางการแสดง และดนตรีของ ศิลปินวงไอดอลหญิง และเกิร์ลกรุ๊ปในประเทศไทย
3.เพื่อให้ผู้ชมทั่วไปที่ไม่รู้จักวงการไอดอลหญิงของประเทศไทย ได้ทำความรู้จัก เข้าใจในระบบ และรูปแบบ ระหว่างวงไอดอล และเกิร์ลกรุ๊ปอย่างถูกต้อง พร้อมกับการที่ผู้ชมทั่วไป จะได้มีโอกาสติดตามพวกเขาเหล่านั้นต่อไปอย่างต่อเนื่อง
4.เพื่อให้แฟนคลับวงไอดอลหญิงในประเทศไทย ได้ร่วมชม และเชียร์ศิลปินวงไอดอลที่ชื่นชอบ และส่งให้พวกเขา ได้ก้าวไปสู่ การเป็น
“สุดยอดวงไอดอล”
เพื่อให้ศิลปินไอดอล ได้มีพื้นที่ทำกิจกรรมร่วมกับแฟนคลับ เพื่อร่วมสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ตอบแทนคืนสู่สังคม เพื่อให้สมกับการเป็น “บุคคลที่เป็นแบบอย่างให้คนทุกวัย”
5.หาก LODI X NEXT IDOL ไม่มีการกลับมาผลิตอีก เวทีนี้ พร้อมที่จะรับช่วงต่อในการจัดการแข่งขัน ให้ต่อเนื่องต่อไป
6.นำข้อบกพร่อง ที่เกิดขึ้นใน LODI X NEXT IDOL มาปรับแก้ไข และต่อยอดให้ดีขึ้นกว่าเดิม
7.ให้วงการไอดอล และศิลปินกลุ่มหญิงของไทย มีเวทีที่ใช่ และเหมาะสม สำหรับวงการนี้
(เพราะหากให้ไปแข่งกับตารางอันดับของวงการ T-POP ทั้งหมด จะเสียเปรียบอย่างมาก)
แนวคิดของรายการ
เวทีนี้ ไม่ใช่ “รายการประกวดร้องเพลง” แต่นี่คือ
รายการ “ประกวดความสามารถวงไอดอล และเกิร์ลกรุ๊ป” ในด้านต่างๆ
ที่ต้องการ “พัฒนาวงการไอดอล และเกิร์ลกรุ๊ปของไทย”
ควบคู่กับการ “พัฒนาสังคมให้น่าอยู่”
รูปแบบรายการเบื้องต้น
มีวงเข้าร่วมแข่งขัน 24 วง มาจากแนวดนตรี 3 แนว (ไอดอล J-POP,T-POP และ เกิร์ลกรุ๊ป) แนวละ 8 วง*
(*จำนวนวง สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมและงบประมาณการผลิต เริ่มต้นที่ 3 วงต่อแนวดนตรี(รวม 9 วง) แต่แนะนำว่า ให้จำนวนในแต่ละแนวเป็นเลขคู่ และสามารถขยายไปได้สูงสุด 30 วง คือ แนวละ 10 วง)
โดยทางวง จะเป็นผู้มีสิทธิ์เลือกแนวทาง และพิจารณาว่า จะให้วงของตนเอง อยู่ที่สายไหน
-เน้นเอ็นเตอร์เทน อยู่ไอดอล
-เน้นเต้นดี โชว์เป๊ะ ปัง อยู่เกิร์ลกรุ๊ป
โดยแต่ละแนว จะแบ่งเป็นกลุ่ม A และ B กลุ่มละ 4 วง
เพื่อทำการแข่งขัน 2 ครั้ง ในรอบแรก
รอบแบ่งกลุ่ม
ทั้ง 24 วง จะทำการแข่งขันในรอบนี้ 2 ครั้ง
โดยครั้งแรก จะเป็นการแข่งขัน โดยการแสดงเพลงของวงตัวเอง
ครั้งที่ 2 จะเป็นการแสดงโชว์เพลงตามโจทย์บังคับของรายการ(เช่น ลูกทุ่ง/ร็อก/เพลงสากล) โดย “ห้ามใช้เพลงของศิลปินในค่ายตัวเอง”
ตัดสินโดย
- กรรมการ 4 ท่าน จากด้านต่างๆ รวมถึง กรรมการประจำแนวดนตรีนั้นๆ ด้วย
- กรรมการจากต่างกลุ่ม
(ศิลปิน/ผู้บริหารของวง/แฟนคลับของวงที่อยู่คนละแนวดนตรี)
- กรรมการพิเศษ ประจำโจทย์เพลงบังคับ (เฉพาะการแข่งขันครั้งที่ 2)
หลังจากแข่งครั้งแรก ครบ 8 วง จะมีการจัดอันดับ และจัดกลุ่มการแข่งขันใหม่
(แบ่งเป็น 2 กลุ่ม เรียงตามอันดับที่ได้ เพื่อให้วงที่ทำผลงานได้ไม่ดีมากในรอบแรก มีโอกาสเข้ารอบได้)
ใช้คะแนนรวมจาก 2 ครั้ง อันดับที่ 1 ของ 2 กลุ่ม จะเข้ารอบทันที
ส่วนอันดับที่ 2 จะมีการโหวตในระยะสั้นจากผู้ชม(ประมาณ 2 ถึง 3 วัน) เพื่อหาผู้เข้ารอบ

Image by Ulli Paege from Pixabay
(ใช้ประกอบเรื่องราวเท่านั้น)

รอบชิงชนะเลิศของสาย
ทั้ง 3 วงในแต่ละกลุ่ม จะทำการแข่งขันเพื่อหาผู้ชนะของกลุ่ม ไปเป็นตันแทนแนวเพลงนั้นในรอบชิงชนะเลิศต่อไป
โดยมีการแข่งขัน วงละ 2 โชว์
- โชว์ที่ 1 โชว์เปิดรอบ (โชว์รวม) โดยวงทั้ง 3 วง จะคิด ออกแบบ และทำการแสดง 1 เพลง ร่วมกัน
- โจทย์ที่ 2 โชว์อัพเวล แต่ละวง จะทำโชว์มินิคอนเสิร์ต 1 โชว์ 10 นาที โดยใช้เพลง 2 เพลง คือ
•เพลงของตัวเอง(ห้ามซ้ำกับรอบที่แล้ว)
•เพลง Cover ที่เลือกให้โดยแฟนๆ (Fan Request) ซึ่ง “ไม่สามารถใช้เพลงในค่ายของตัวเองได้”
โดยการตัดสิน จะมาจากผู้ชมเพียงอย่างเดียว
(เปิดและปิดโหวตในรายการ วงที่ได้คะแนนมากที่สุด จะเป็นแชมป์ของแนวดนตรีนั้น และเป็นตัวแทนของแนวดนตรี ไปแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ และเปิดเผยผลการโหวตหลังปิดโหวตในรายการ ทันทีที่ประกาศผู้ชนะ)
รอบโอกาสที่สอง (Second Chance)
รอบพิเศษ ที่เปิดให้กับวงที่ตกรอบไปแล้ว แต่ทำผลงานได้ดี ได้มีโอกาสในการแข่งขัน รูปแบบกติกาเดียวกับรอบชิงชนะเลิศของสาย
โดยในช่อง Youtube/Facebook/TikTok/IGTV ของรายการ จะมีการอัพโหลดวิดีโอการแสดงแยกออกมา เราจะนำยอดรับชมการแสดงใน
รอบแบ่งดาวทั้ง 2 การแสดง ของแต่ละวงที่ตกรอบ มาคำนวณ และคิดคะแนน (ใช้เวลานับ 2 สัปดาห์หลังอัพโหลด ทุกวิดีโอ)จากนั้น ในรอบชิงจ้าวกาแล็กซี่ สัปดาห์ที่ 3 จะมีการประกาศวงที่เข้ารอบแก้มือ 3 วง กาแล็กซี่ละ 1 วง (ถ้าวงนั้นเข้ารอบไปแล้ว วงลำดับรองลงมาจะเข้าแทน)
โดยการแข่งขันรอบแก้มือ จะเกิดขึ้น ในสัปดาห์ถัดมา หลังจากจบการแข่งขันรอบชิงจ้าวกาแล็กซี่ กลุ่มสุดท้าย สัปดาห์สุดท้าย
ทั้ง 3 วง จะแข่งขันโดยใช้กติกา คล้ายกับรอบชิงจ้าวกาแล็กซี่เกือบทั้งหมด(ไม่มีรอบโชว์รวม และต้องคิดโชว์ใหม่) แม้กระทั่งการโหวต
วงใด ที่ได้คะแนนโหวตมากที่สุด จะเป็นผู้ชนะของรอบนี้ และได้เข้ารอบชิงชนะเลิศหลักอีกด้วย

รอบชิงชนะเลิศใหญ่
(Grand Final)
การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ที่ทั้ง 4 วง จะทำการแสดงเพลงใหม่ เพื่อหาผู้ชนะเพียงหนึ่งเดียว
โดยทั้ง 24 วง จะมีการเตรียมเพลงใหม่ 2 เพลง คือ เพลงช้า และเพลงเร็ว อย่างละ 1 เพลง ไว้ก่อนล่วงหน้า
(วงที่ไม่เข้ารอบ ก็จะปล่อยเพลงใหม่ออกมาร้อมกันด้วยเช่นกัน ไม่เตรียมเก้อแน่นอน)
รอบชิงชนะเลิศนี้ ทั้ง 4 วง จะแข่งขันกันใน 2 บทเพลง โดยเป็นเพลงใหม่ ทั้งเพลงช้า และเพลงเร็ว
(ซึ่งเป็นเพลงที่เตรียมไว้ล่วงหน้าสำหรับรอบชิงชนะเลิศอยู่แล้ว)
โดยแสดงในลักษณะ มินิคอนเสิร์ต 12 นาที (แสดงเหมือนมินิคอนเสิร์ต ที่เคยแสดงตามงานต่างๆ ซึ่งจะให้มี Overture ขึ้นให้ก่อนการแสดงของแต่ละวงด้วย)
การโหวตรอบนี้ จะจำกัดที่ 1 โหวต/วง/เลขหมาย หรือผู้ใช้ ในช่องทางต่างๆ
วงใด ได้คะแนนการโหวตรวมมากที่สุด จะเป็นผู้ชนะของฤดูกาล
